วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ยุง จอมกวน

"ยุง" รู้ได้ยังไงว่าเรามีเลือดให้มันกิน

                                                
เคยสงสัยมั้ยคะว่า สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ที่วงจรชีวิตอยู่ได้แค่ประมาณ 1 อาทิตย์ อย่าง "ยุง" ทำไมถึงร้ายนัก!! และทำไมมันถึงต้องกินเลือดคน แล้วรู้ได้ยังไง ว่าเรามีเลือด  และทำไม.... สารพัดคำถามเกี่ยวกับยุง วันนี้เราเอาคำตอบมาบอกค่ะ
  ยุง เป็นสิ่งที่มีชีวิตที่มีอยู่ทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะกลางคืนเหมือนได้ออกมาปาร์ตี้ ใครไม่เคยโดนกัดถือว่าแปลกมาก (แต่ถ้าใครเคยโดนกัดจนขาลายมาถึงทุกวันนี้ถือว่าไม่แปลก) ซึ่งยุงนั้นมีหลายร้อยชนิดเลยค่ะน้องๆ แต่ที่มีเยอะในประเทศไทยก็คงไม่พ้น ยุงรำคาญ รองมาก็คือ ยุงลาย นอกจากนั้นก็ยังมียุงพาหะนำโรคชนิดอื่นๆ อีกหลายชนิด ยุงพวกนี้จะกินเลือดเป็นอาหารค่ะ ซึ่งเหยื่อของยุงพวกนี้ก็คือ คน และสัตว์ที่มีผิวหนังไม่แข็งเกินไป เพราะฉะนั้นน้องหมา น้องแมวที่บ้านเรา โดนกัดด้วยแน่นอน ส่วนคนนี่ กางเกงยีนส์ยังกัดทะลุมาแล้ว เรียกว่าปากแหลมจริงๆ

               แต่ก็ไม่ใช่ว่ายุงทุกตัวจะกัดเรานะคะ จะมีแค่ยุงตัวเมียเท่านั้นที่กัด เพราะต้องใช้โปรตีนจากเลือด ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นในการฟักไข่ หมายความว่า ถ้าไม่มีเลือดก็ออกไข่ไม่ได้ และในทางตรงกันข้ามยิ่งดูดเลือดได้เยอะเท่าไหร่ก็จะยิ่งวางไข่ได้มากเท่านั้น โดยอาจวางไข่ได้มากที่สุดถึง 100 - 400 ฟองในครั้งเดียว ถ้าจะออกมากันเยอะขนาดนี้ ไม่รู้ว่าจะขยายพันธุ์หรือจะยึดครองโลกกันแน่ ส่วนยุงตัวผู้ จะกินน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ ไม่ดูดเลือดค่ะ อย่างไรก็ตามถ้ายุงตัวเมียไมได้ต้องการโปรตีนเพื่อวางไข่ แค่กินน้ำหวานก็ให้พลังงานได้เหมือนกัน

                                              
เชื่อว่าหลายคนคงเคยแซวเพื่อนๆ เวลาโดนยุงกัดว่า เพราะ "แกตัวเหม็น ยุงก็เลยกัด" ส่วนเพื่อนก็จะเถียงกลับมาว่า "เพราะตัวหอมหรอก ยุงก็เลยกัด ยุงไม่กัดคนตัวเหม็น" ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้จะบอกว่าใครถูกใครผิดหรอกค่ะ  แต่จะมาเฉลยว่ายุงเลือกกินเลือดคนคนนึงนั้น มีปัจจัยอะไรบ้าง

              อย่างแรกเลยความร้อนของร่างกาย ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสมก็ประมาณ 37 องศา เท่ากับร่างกายของมนุษย์พอดี นอกจากนี้อีกปัจจัยนึง ก็คือ กลิ่นเหงื่อของคน รวมถึงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่คนหายใจออกมา เพราะยุงเป็นสัตว์ที่มีระบบอัจฉริยะ มีตัวรับสัญญาณทั้งทางเคมีที่รับรู้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และรับในระยะทางที่ไกลถึง 100 ฟุต, สัญญาณจับความร้อน ดังนั้นเมื่อเจอสัตว์เลือดอุ่นที่ไหน สัญญาณนี้ทำงานปุ๊บ ยุงก็กางปีกบินไปหาเหยื่อได้ทันที นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณรับภาพ จึงมองเห็นในที่มืดได้ดี ลักษณะเฉพาะพวกนี้ถือเป็นวิวัฒนาการของยุง ที่ปรับ เปลี่ยนตามสภาพแวดล้อม เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด ส่วนที่ไม่รอดน่าจะเป็นคนนี่แหละ ><

                                                             
หลังจากที่มันได้เป้าหมายแล้ว มันก็จะค่อยๆ เอาปากเจาะไปที่ผิวหนังของเรา โดยที่เราจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เริ่มรู้สึกคัน แต่ยุงบินหายไปแล้ว อาการคันหลังโดนยุงกัดนั้นมาจากสารเคมีชนิดนึงในน้ำลายของยุง ซึ่งคุณสมบัติของสารตัวนี้จะทำให้เลือดไม่แข็งตัว ยุงก็จะดูดเลือดเราได้ง่ายขึ้น เรียกว่าดูดกันเพลิน แต่ถ้าตัวไหนเพลินเกินจนพุงป่องแล้วเราไหวตัวทันละก็ มีหวังโดนตบแปะแน่นอน ซึ่งเจ้าสารที่ว่ายังทำให้เกิดอาการบวม แดง คัน แต่จะเป็นมากน้อย ก็ขึ้นอยู่กับภูมิของแต่ละคน
                                                               
 เรียกว่าเป็นสัตว์ที่เกิดง่าย โตง่าย ตายง่าย แต่ก็มีประชากรล้นโลก แถมยังมีพิษสงร้ายแรง ไม่ใช่แค่กัดเจ็บ แต่บางชนิดยังเป็นพาหะนำโรคที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต ทั้ง ไข้เลือดออก โรคมาลาเรีย โรคเท้าช้าง เป็นต้น เพราะฉะนั้น ก็ควรดูแลตัวเอง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่มืด ยุงชุมและอย่าปล่อยให้มีน้ำขังบริเวณบ้านนะคะ
   ส่วนอันนี้แถมมาให้ค่ะ






ที่มา/http://www.postjung.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น